นักปั่นจากนานาชาติมุ่งหน้าสู่ประเทศไทยเพื่อร่วมชิงชัยศึกสองล้อทางไกล “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2024” วันที่ 1-10 เม.ย.67 เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ 69 พรรษา วันที่ 2 เมษายน 2567 โดยใช้เส้นทาง จ.พิษณุโลก, อุตรดิตถ์, สุโขทัย, กำแพงเพชร, พิจิตร, นครสวรรค์ และเพชรบูรณ์ ผ่านอุทยานประวัติศาสตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม รวมระยะทางทั้งสิ้น 1,242.50 กม. อีกทั้งเป็นการเผยแพร่แหล่งท่องเที่ยวของไทยให้ปรากฏสู่สายตาชาวโลกผ่านการถ่ายทอดสดเฟซบุ๊กไลฟ์ และยูทูบ ของ “ไทยพีบีเอส” ด้าน “เสธ.หมึก” ขอเชิญพี่น้องประชาชนชาวไทยตลอดเส้นทางการแข่งขันสวมเสื้อสีม่วงออกมาให้กำลังใจนักปั่นไทยและต้อนรับนักปั่นต่างชาติ ส่วนประชาชนทั่วประเทศรับชมได้ทางเฟซบุ๊กไลฟ์ไทยพีบีเอส ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ เตรียมจัดการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2024” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระหว่างวันที่ 1-10 เมษายน เส้นทางในจังหวัดพิษณุโลก, อุตรดิตถ์, สุโขทัย, กำแพงเพชร, พิจิตร, นครสวรรค์ และเพชรบูรณ์ รวมระยะทางทั้งสิ้น 1,242.50 กิโลเมตร โดยสมาคมกีฬาจักรยานฯ กำหนดเส้นทางแข่งขันผ่านอุทยานประวัติศาสตร์ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม
พลเอกเดชา กล่าวว่า การแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2024” จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ 69 พรรษา วันที่ 2 เมษายน 2567 โดยพิธีเปิดการแข่งขันในแต่สเตจผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดที่นักกีฬาพักค้างแรมจะเป็นผู้กล่าวถวายพระพรชัยมงคล นอกจากนั้นยังมีการจัดซุ้มเฉลิมพระเกียรติลงนามถวายพระพร เพื่อให้พี่น้องประชาชนลงนามถวายพระพร เป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ขณะเดียวกัน พี่น้องประชาชนในแต่ละจังหวัดที่เป็นเส้นทางการแข่งขันก็พร้อมใจกันสวมเสื้อสีม่วงออกมาโบกธงชาติไทย และธงพระนามาภิไธยย่อ “สธ.” เพื่อให้เกียรติร่วมต้อนรับคณะนักกีฬาตลอดเส้นทาง
นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า เวลานี้ทีมต่างชาติทุกทีมที่จะเข้าร่วมการแข่งขันทั้งประเภททีมชาย และทีมหญิง พร้อมมุ่งหน้าเดินทางมายังประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม เป็นต้นไป โดยประเภททีมชายมีจำนวน 15 ทีม ประกอบด้วย ทีมตรังกานู จากมาเลเซีย, ทีมเซเว่นอีเลฟเว่น คลิก โรดไบค์ จากฟิลิปปินส์, ทีมไชน่า กลอรี่ คอนติเนนตัล จากจีน, ทีมนูซานทาร่า จากอินโดนีเซีย, ทีมแอลเอ็กซ์ ไซคลิง จากเกาหลีใต้, ทีมเซนต์จอร์จ คอนติเนนตัล จากออสเตรเลีย, ทีมมาเลเซีย โปร ไซคลิง จากมาเลเซีย, ทีมโก ฟอร์ โกลด์ จากฟิลิปปินส์, ทีมชาติสิงคโปร์, ทีมชาติมาเลเซีย, ทีมชาติฮ่องกง, ทีมชาติไทย และทีมอาชีพของไทยอีก 3 ทีม ได้แก่ ทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง, ทีมรู้ใจ อินชัวเรนซ์, ทีมแกรนท์ ธอร์นตัน
พลเอกเดชา กล่าวต่อไปว่า ส่วนประเภททีมหญิงมีจำนวน 12 ทีม ประกอบด้วย ทีมไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง, ทีมชาติไทย, ทีมชาติเวียดนาม, ทีมชาติมาเลเซีย, ทีมชาติอินโดนีเซีย, ทีมชาติสิงคโปร์, ทีมทาชเคนท์ ซิตี้ จากอุซเบกิสถาน, ทีมแอสตานา เดวี่ จากคาซัคสถาน, ทีมบีวาเซ จากเวียดนาม, ทีมไบค์วีลส์ จากออสเตรเลีย รวมทั้ง 2 ทีมสโมสรของไทยได้แก่ ทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ และทีมไพร์ม19 สำหรับการแข่งขันครั้งนี้สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ลงทะเบียนกับสหพันธ์จักรยานนานาชาติ หรือ ยูซีไอ ให้เป็นการแข่งขันระดับ 2.1 มีการเก็บคะแนนสะสมนักปั่นจักรยานโลกทั้งประเภททีมชายและทีมหญิง
“การที่มีทีมอาชีพจากทวีปต่าง ๆ เดินทางมาร่วมแข่งขัน เป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ทั้งในด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดที่เป็นเส้นทางการแข่งขันให้มีความคึกคัก เป็นการเผยแพร่ให้ทั่วโลกได้เห็นวิถีชีวิตของพี่น้องชาวไทยภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลางตอนบน เห็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม ทั้งเชิงวัฒนธรรม และเชิงธรรมชาติ ผ่านการถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไลฟ์ Thai PBS และช่องยูทูบ Thai PBS ของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ตลอดการแข่งขัน เพื่อรองรับนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นการร่วมรณรงค์ยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย โดยใช้กีฬาจักรยานเป็นสื่อกลาง” พลเอกเดชา กล่าว
สำหรับการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2024” ประเภททีมชาย แข่งขันระหว่างวันที่ 1-6 เมษายน 2567 ระยะทาง 964.30 กิโลเมตร สเตจที่ 1 วันที่ 1 เมษายน เส้นทางจากพระราชวังจันทน์ (หน้าทางเข้าศาลสมเด็จพระนเรศวร) จังหวัดพิษณุโลก ผ่านจังหวัดอุตรดิตถ์ ไปเข้าเส้นชัยที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย (ระยะทาง 131 กิโลเมตร), สเตจที่ 2 วันที่ 2 เมษายน เส้นทางจากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ผ่านอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร กลับมาเข้าเส้นชัยที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย (ระยะทาง 202.30 กิโลเมตร), สเตจที่ 3 วันที่ 3 เมษายน เส้นทางจากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ผ่านอำเภอกงไกรลาศ ผ่านอำเภอวังทอง เข้าเส้ยชัยที่บ้านรักไทย อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก (ระยะทาง 128.30 กิโลเมตร)
สเตจที่ 4 วันที่ 4 เมษายน เส้นทางจากพระราชวังจันทน์ จังหวัดพิษณุโลก ผ่านอำเภอวังทอง ผ่านวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เข้าเส้นชัยที่พุทธอุทยานเพชบุระ จังหวัดเพชรบูรณ์ (ระยะทาง 155.90 กิโลเมตร), สเตจที่ 5 วันที่ 5 เมษายน เส้นทางจากพระราชวังจันทน์ จังหวัดพิษณุโลก ผ่านอำเภอบางกระทุ่ม เข้าเส้นชัยที่บึงสีไฟ จังหวัดพิจิตร (ระยะทาง 156 กิโลเมตร), สเตจที่ 6 วันที่ 6 เมษายน เส้นทางจากบึงสีไฟ จังหวัดพิจิตร ผ่านอำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ ผ่านอำเภอบึงสามพัน เข้าเส้นชัยที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ (ระยะทาง 190.80 กิโลเมตร)
ส่วนประเภททีมหญิง แข่งขันระหว่างวันที่ 8-10 เมษายน 2567 ระยะทาง 278.20 กิโลเมตร สเตจที่ 1 วันที่ 8 เมษายน เส้นทางจากพระราชวังจันทน์ (หน้าทางเข้าศาลสมเด็จพระนเรศวร) จังหวัดพิษณุโลก ผ่านจังหวัดอุตรดิตถ์ เข้าเส้นชัยที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย (ระยะทาง 112.70 กิโลเมตร), สเตจที่ 2 วันที่ 9 เมษายน เส้นทางจากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ผ่านโบราณสถาน วัดอโศการาม ผ่านอำเภอคีรีมาศ เข้าเส้นชัยที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย (ระยะทาง 95.50 กิโลเมตร), สเตจที่ 3 วันที่ 10 เมษายน เส้นทางภายในจังหวัดเพชรบูรณ์ จากอำเภอบึงสามพัน ผ่านอำเภอวิเชียรบุรี เข้าเส้นชัยที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ (ระยะทาง 70 กิโลเมตร)
พลเอกเดชา กล่าวเสริมว่า สำหรับทีมนักปั่นไทยทั้งทีมอาชีพและทีมชาติ ได้ทำการฝึกซ้อมเส้นทางแข่งขันจริงจากจังหวัดพิษณุโลกไปยังอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับเส้นทาง โดยเฉพาะทีมอาชีพชาย “ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล” และทีมอาชีพหญิง “ไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง” สมาคมฯ ตั้งเป้าหมายว่าจะต้องติดอันดับ 1 ใน 3 เวลารวมบุคคล และคว้าแชมป์สเตจมาครองให้ได้อย่างน้อย 1-2 สเตจ เพื่อทำคะแนนสะสมยูซีไอเป็นฐานสำหรับการคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2028 ต่อไปในอนาคต ดังนั้นจึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยในจังหวัดที่เป็นเส้นทางแข่งขันพร้อมใจสวมเสื้อสีม่วงออกมาเชียร์และให้กำลังใจนักปั่นไทย รวมถึงต้อนรับนักปั่นจากต่างชาติที่เพื่อแสดงออกถึงการเป็นเจ้าภาพที่ดี ส่วนพี่น้องประชาชนจากทั่วประเทศสามารถรับชมได้ทางเฟซบุ๊กไลฟ์ และยูทูบ ของไทยพีบีเอส ระหว่างวันที่ 1-10 เมษายน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป.