“จุฑาธิป มณีพันธุ์” สวมหัวใจสิงห์ปั่นเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกคว้าแชมป์สเตจที่ 3 พร้อมผงาดตำแหน่งชนะเลิศผู้นำเวลารวมในศึกสองล้อทางไกลสตรี “วีเมนส์ ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2024” ได้ครองถ้วยพระราชทานฯ รวมทั้งคว้ารางวัลชนะเลิศคะแนนรวมเจ้าความเร็ว และรางวัลชนะเลิศนักกีฬาอาเซียนยอดเยี่ยม ได้รับทั้ง “เสื้อเหลือง-เสื้อเขียว-เสื้อม่วง” ครบ 3 ตัว ด้าน “เสธ.หมึก” มอบเงินอัดฉีดให้ทัพปนักปั่นสาวไทยเกือบ 3 แสนบาท ส่วนการแข่งขันในปีหน้ากำหนดเส้นทาง Unseen Thailand ล่องใต้ไปยังนครศรีธรรมราชและสุราษฎร์ธานี ขณะที่โปรแกรมการแข่งขันรายการต่อไปเป็น “หนูน้อยขาไถ ชิงแชมป์ประเทศไทย” รอบชิงแชมป์ภาคเหนือ ที่ห้างเซ็นทรัล พลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต วันที่ 21 เม.ย.67 แฟน ๆ เข้าชมฟรี
การแข่งขันจักรยานทางไกลสตรีนานาชาติ “วีเมนส์ ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2024” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระหว่างวันที่ 8-10 เมษายน เส้นทางในจังหวัดพิษณุโลก, อุตรดิตถ์, สุโขทัย, และเพชรบูรณ์ รวมระยะทางทั้งสิ้น 269.50 กิโลเมตร สำหรับพิธีเปิดการแข่งขันประเภททีมหญิงสเตจที่ 3 เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่หน้าที่ว่าการอำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยได้รับเกียรติจาก นายสืบพงษ์ นิ่มพูลสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน พร้อมด้วย พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก นายจิตร์ติพนธ์ สัตตะพันธ์คีรี ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดนครสวรรค์ ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์, นายวีระวัฒน์ วัฒนวงศ์พฤกษ์ นายอำเภอศรีเทพ, นายสมพงษ์ ทองหนูนุ้ย นายอำเภอบึงสามพัน, นายปกรณ์ ตั้งใจตรง นายอำเภอเมืองเพชรบูรณ์, นายปัญญา ปานแสง นายอำเภอวิเชียรบุรี, นายวีระ ธูปทอง ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเพชรบูรณ์, พันเอกรุ่งโรจน์ ใจน้ำ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 36 พร้อมหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ร่วมในพิธี โดยสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไลฟ์ Thai PBS และช่องยูทูบ Thai PBS มียอดผู้ชมรวมกันกว่า 350,000 วิว
สำหรับการแข่งขันสเตจที่ 3 ซึ่งเป็นสเตจสุดท้าย เส้นทางภายในจังหวัดเพชรบูรณ์ จากหน้าที่ว่าการอำเภอบึงสามพัน ผ่านอำเภอวิเชียรบุรี เข้าเส้นชัยที่สมาคมชาวไร้อ้อย จังหวัดเพชรบูรณ์ ระยะทาง 61.30 กิโลเมตร เป็นทางเรียบแต่มีอุปสรรคทางขรุขระบ้างในบางช่วง นักปั่นสาวไทยและเวียดนามเล่นเกมสู้กันมาตลอด จนกระทั่งเข้าสู่ช่วง 5 กิโลเมตรก่อนเข้าเส้นชัย “แพร” ส.อ.หญิง เพชรดารินทร์ สมร่าช นักปั่นทีมไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง หนีกลุ่มใหญ่ออกมาแต่ก็โดนรวบในช่วง 1 กิโลเมตรสุดท้าย จากนั้นนักปั่นต่างหาจังหวะเร่งสปรินท์เข้าเส้นชัย
ผลปรากฏว่า “ผู้กองบีซ” ร.อ.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ จากทีมไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง สปรินท์ช่วง 200 เมตรสุดท้ายเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก โดยมี คลอเดีย มาร์กส์ นักปั่นทีมไบค์วีลส์ จากออสเตรเลีย ตามมาเป็นอันดับ 2 ส่วน เหงียน ธิ ทัต นักปั่นทีมชาติเวียดนามคู่ปรับของจุฑาธิป ที่ได้แชมป์ใน 2 สเตจแรก เข้ามาเป็นอันดับ 3 ด้วยเวลา 1.29.43 ชั่วโมงเท่ากัน ในสเตจนี้ “ผู้กองบีซ” จึงล้างตานักปั่นสาวเวียดนามได้สำเร็จ ส่วนนักปั่นไทยคนอื่น ๆ ที่มีอันดับดีที่สุดได้แก่ ส.อ.หญิง ศุภักษร นันตะนะ นักปั่นทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ไซคลิง ได้อันดับ 9, น.ส.กมลรดา ขาวปลอด นักปั่นทีมชาติไทย ได้อันดับที่ 11, น.ส.รุ่งนภา กุศล นักปั่นทีมชาติไทย ได้อันดับที่ 14 เวลา 1.29.43 ชั่วโมงเท่ากัน
รางวัลเจ้าความเร็ว หรือ Intermediate Sprints จุดที่ 1 (IS1) เป็นของ คลอเดีย มาร์กส์ นักปั่นทีมไบค์วีลส์ โดยมี ร.อ.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ ได้อันดับ 2 ด้านตำแหน่งนักกีฬาบู๊ยอดเยี่ยมประจำสเตจที่ 2 ได้แก่ น.ส.รุ่งนภา กุศล นักปั่นทีมชาติไทย ด้วยฟอร์มการปั่นที่ดุเดือดและสวมหัวใจนักสู้อย่างเต็มร้อย
สรุปรางวัลชนะเลิศผู้นำเวลารวม เป็นของ “บีซ” ร.อ.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ จากทีมไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง เวลา 6.49.18 ชั่วโมง ได้รับ “เสื้อเหลือง” พร้อมได้ครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, อันดับ 2 เหงียน ธิ ทัต นักปั่นทีมชาติเวียดนาม เวลา 6.49.18 ชั่วโมงเท่ากัน แต่จุฑาธิปได้อับดับ 2 ในสเตจที่ 1 และ 2 ดีกว่า เหงียน ธิ ทัต ซึ่งได้อันดับ 3 ในสเตจสุดท้าย, อันดับ 3 คลอเดีย มาร์กส์ นักปั่นทีมไบค์วีลส์ เวลา 6.49.32 ชั่วโมง โดยมี น.ส.กมลรดา ขาวปลอด นักปั่นทีมชาติไทย ได้อันดับที่ 5 เวลา 6.49.42 ชั่วโมง
นอกจากนี้รางวัลชนะเลิศคะแนนรวมเจ้าความเร็ว ก็เป็นของ จุฑาธิป มณีพันธุ์ มี 49 คะแนน ได้รับ “เสื้อเขียว”, อับดับ 2 เหงียน ธิ ทัต มี 48 คะแนน, อันดับ 3 คลอเดีย มาร์กส์ มี 42 คะแนน, รางวัลชนะเลิศนักกีฬาอาเซียนยอดเยี่ยม ได้แก่ จุฑาธิป มณีพันธุ์ เช่นเดียวกัน ได้รับ “เสื้อม่วง”, อันดับ 2 เหงียน ธิ ทัต เวลา 6.49.18 ชั่วโมงเท่ากัน, อันอับ 3 นูร์ อิสยา บินติ มูฮัมหมัด ซูบีร์ นักปั่นทีมชาติมาเลเซีย เวลา 06.49.41 ชั่วโมง ทั้งนี้ พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้มอบเงินอัดฉีดให้แก่นักปั่นทีมไทยแลนด์คอนติเนนตัล และทีมชาติไทยที่ได้รับรางวัลต่าง ๆ รางวัลละ 50,000 บาท และมอบให้ จุฑาธิป มณีพันธุ์ ที่ได้แชมป์จำนวน 150,000 บาท รวมทั้งมอบรางวัลพิเศษให้แก่ พ.ต.หญิง จันทร์เพ็ง นนทะสิน อีก 30,000 บาท
ขณะที่รางวัลชนะเลิศประเภททีมอาเซียน ได้แก่ ทีมชาติมาเลเซีย เวลา 20.29.15 ชั่วโมง, ที่ 2 ทีมไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง เวลา 20.29.24 ชั่วโมง, ที่ 3 ทีมชาติไทย เวลา 20.29.24 ชั่วโมง ด้านรางวัลชนะเลิศเวลารวมประเภททีม ได้แก่ ทีมชาติมาเลเซีย เวลา 20.29.15 ชั่วโมง, ที่ 2 ทีมไบค์วีลส์ จากออสเตรเลีย เวลา 20.29.24 ชั่วโมง, ที่ 3 ทีมไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง เวลา 20.29.24 ชั่วโมง ด้านผลการแข่งขันทั้งหมดสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ www.thaicycling.or.th
หลังการแข่งขัน “บีซ” จุฑาธิป กล่าวว่า ดีใจมาก ผลการแข่งขันที่ออกมาเกินคาดจริง ๆ อยากขอบคุณ พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ ที่ให้กำลังใจพวกเรามาโดยตลอด รวมทั้งเงินอัดฉีดที่มอบให้ ทำให้พวกเรามีกำลังใจต่อสู้ ขอบคุณสตาฟฟ์โค้ชทุกคน ขอบคุณเพื่อนร่วมทีมที่ช่วยกันและรวมใจกันเป็นหนึ่ง พวกเรารู้ดีว่าการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจะต้องแบกความหวังมากแค่ไหน ขอบคุณทุกคนที่เชื่อมั่นในความเป็นจุฑาธิป และขอบคุณแฟน ๆ กีฬาจักรยานทุกคนที่ให้กำลังใจพวกเรา นักปั่นไทยทุกคนขอสัญญาว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ด้าน พลเอกเดชา เปิดเผยว่า ผลงานในวันนี้ต้องยอมรับว่าสตาฟฟ์โค้ชแก้เกมได้ดี เพราะ 2 วันที่ผ่านมาค่อนข้างเครียดกันพอสมควร ซึ่งตนได้ให้ข้อคิดไปว่าหากแข่งขันกับ เหงียน ธิ ทัต ก็ต้องเกาะแบบล้อติดล้อ หากให้จุฑาธิปออกนำก่อน เขาจะอาศัยช่วงที่จุฑาธิปหมดแรงแล้วสปรินท์แซงเข้าเส้นชัยทันที นับว่าแผนการแก้เกมครั้งนี้ได้ผลมาก ดังนั้นในสนามอื่น ๆ เราก็ต้องเล่นเกมแบบนี้ ทั้งกีฬาซีเกมส์ และจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย และต้องชื่นชมว่านักกีฬาไทยมีหัวใจนักสู้หมดทุกคน ไม่ว่าจะเป็นทีมอาชีพ และทีมชาติไทยที่เป็นเด็กใหม่ หลังจากนี้นักปั่นไทยตัวหลัก ๆ ก็ยังต้องซ้อมหนัก เพื่อไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป้าหมายคือจะต้องปั่นให้จบการแข่งขัน อาจจะต้องเปลี่ยนสถานที่เก็บตัวจากจังหวัดเชียงใหม่มาอยู่ที่เขาใหญ่เพื่อเลี่ยงปัญหาฝุ่น PM2.5 และฝึกซ้อมเส้นทางขึ้นภูเขาเหมือนกับสภาพสนามแข่งขันจริง
พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า ส่วนในภาพรวมของ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์” ต้องขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดพิษณุโลก, สุโขทัย, อุตรดิตถ์, กำแพงเพชร, พิจิตร, นครสวรรค์ และเพชรบูรณ์ ที่นำมวลชนมาให้กำลังใจนักกีฬาตลอดเส้นทางการแข่งขัน และเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ วันที่ 2 เมษายน 2567 ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่านักกีฬาที่เข้าแข่งขันไม่มีใครประสบอุบัติเหตุขั้นรุนแรง มีแค่บาดแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ, อาสาสมัครกู้ภัย, อพปร., อาสาสมัครหมู่บ้าน, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ที่สนับสนุนด้านการจรจาจรและรักษาความปลอดภัยตลอดเส้นทาง นอกจากนี้ขอขอบคุณผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 และแม่ทัพภาคที่ 3 ที่ให้การสนับสนุนด้านกำลังพล ทำให้การแข่งขันประสบความสำเร็จด้วยดี
นายกสองล้อไทย กล่าวต่อไปว่า สำหรับเส้นทางแข่งขันจักรยานทางไกล “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์” ในปีหน้า ได้กำหนดเอาไว้ว่าจะไปแข่งขันที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและสุราษฎร์ธานี โดยจะไปที่อำเภอสิชล-ปากพนัง-ไอ้ไข่วัดเจดีย์-ขนอม-คีรีวงศ์-ลานสกา-เขื่อนรัชประภา-บึงขุนทะเล นับว่าเป็นเส้นทาง Unseen Thailand ตลอดการแข่งขัน ส่วนโปรแกรมของนักปั่นไทยทั้งชายและหญิง หลังจากนี้จะให้พักผ่อน 1 สัปดาห์ จากนั้นจะกลับมาเก็บตัวฝึกซ้อมต่อเพื่อเตรียมเข้าแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2024 ที่ประเทศคาซัคสถาน ระหว่างวันที่ 8-12 มิถุนายน นอกจากนี้ทีมชายจะไปแข่งขันทัวร์ อินโดนีเซีย ช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ขณะที่ทีมหญิงจะไปแข่งขันรายการแองยาง คัพ ที่ประเทศเวียดนาม ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม จะเห็นได้ว่าสมาคมกีฬาจักรยานฯ ทำงานต่อเนื่องไม่เคยหยุดนิ่ง
“หลังจากดูนักปั่นรุ่นใหญ่แข่งขันกันแล้ว สมาคมกีฬาจักรยานฯ ขอเชิญพี่น้องประชาชนชาวไทยมาร่วมชมร่วมเชียร์นักปั่นหนูน้อยร่วมแข่งขันจักรยานหนูน้อยขาไถ ชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2567 ชิงถ้วยพระราชทานฯ สนามที่ 1 รอบชิงแชมป์ภาคเหนือ ในวันที่ 21 เมษายน ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต ซึ่งเป็นการฝึกทักษะและปูพื้นฐานด้านกีฬาจักรยานให้แก่หนูน้อยตั้งแต่อายุ 1 ปี 8 เดือน ไปจนถึงอายุ 10 ปี แฟน ๆ ชาวเชียงใหม่สามารถเข้าชมฟรี ส่วนพี่น้องประชาชนชาวไทยทั่วประเทศติดตามชมได้ที่เฟซบุ๊กไลฟ์ Thaicycling Association ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป” พลเอกเดชา กล่าวในตอนท้าย
สำหรับผู้ปกครองที่สนใจส่งบุตรหลานเข้าแข่งขันจักรยานหนูน้อยขาไถ ชิงแชมป์ประเทศไทยฯ สนามที่ 1 สามารถสมัครได้ที่เว็บไซต์ของสมาคม www.thaicycling.or.th ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 19 เมษายน หรือสมัครได้ตัวตัวเองที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต ในวันที่ 20 เมษายน เวลา 09.00-17.00 น. หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร.0-2719-3340-2 ในวันและเวลาราชการ.