“จุฑาธิป” โชว์ฟอร์มสุดยอด ผงาดแชมป์ สองล้อ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์” สเตจแรก

“จุฑาธิป มณีพันธุ์” นักปั่นสาวทีมชาติไทย โชว์ฟอร์มสุดยอด ผงาดคว้าแชมป์ศึกสองล้อทางไกลสตรีนานาชาติ “วีเมนส์ ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2022” สเตจแรก เส้นทางใน จ.มุกดาหาร-นครพนม รั้งตำแหน่งผู้นำเวลารวมได้ครอง “เสื้อเหลือง” พร้อมทั้งได้ตำแหน่งผู้นำเจ้าความเร็ว ได้รับ “เสื้อเขียว” ไปครองอีก 1 ตัว ด้าน “เสธ.หมึก” พอใจนักปั่นทำได้ตามแผนที่สตาฟฟ์โค้ชวางเอาไว้ ขณะที่ “เฉลิมพล มั่งคั่ง” พ่อเมืองมุกดาหาร สุดปลื้มเศรษฐกิจในจังหวัดคึกคัก และได้เผยแพร่แหล่งท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก

การแข่งขันจักรยานทางไกลสตรีนานาชาติ “วีเมนส์ ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2022” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ New Normal เส้นทางจังหวัดมุกดาหาร และนครพนม เมื่อวันที่ 8 เมษายน เป็นการแข่งขันสเตจที่ 1 เส้นทางจากจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2-เลาะริมแม่น้ำโขง-ผ่านวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร จังหวัดนครพนม-ผ่านแก่งกะเบา-ผ่านสักการสถาน พระมารดาแห่งมรณสักขี (วัดสองคอน)-เข้าเส้นชัยที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 ระยะทาง 85.12 กิโลเมตร โดยได้รับเกียรติจาก นายเฉลิมพล มั่งคั่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ให้เกียรติเป็นประธานพิธีเปิดและปล่อยตัวนักกีฬา ร่วมกับ “เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่บริเวณเชิงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2

นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก นายเอกราช มณีกรรณ์ ปลัดจังหวัดมุกดาหาร, นายไชยา อุ่นอารีย์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร, นายสุริยัน โสรินทร์ รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครพนม, นางสาววันวิภา แพงแก้ว ประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร, นายประจวบ สุริยะวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลบางทรายใหญ่, นายไพบูลย์ ทวีโคตร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางทรายน้อย พร้อมหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ร่วมในพิธี โดยสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ และยูทูบ ให้ชมตั้งแต่ต้นจนจบการแข่งขัน ซึ่งมียอดผู้ชมการแข่งขันทางเฟซบุ๊กไลฟ์ มากกว่า 350,000 วิว และยอดผู้ชมต่อเนื่องกว่า 3,500 คน

นายเฉลิมพล มั่งคั่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า การที่จังหวัดมุกดาหารได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติทั้งประเภททีมชายและทีมหญิง โอกาสเช่นนี้คงไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ ต้องขอขอบคุณสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ที่เลือกจังหวัดมุกดาหารเป็นเจ้าภาพหลัก ทำให้มีการเผยแพร่แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดมุกดาหารให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ในช่วงระยะเวลา 10 กว่านี้ มีชาวต่างชาติมาเยือนจังหวัดของเราหลายเชื้อชาติ ทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดมุกดาหารฟื้นตัวเป็นอย่างมาก ทั้งด้านการท่องเที่ยว โรงแรมที่พักเต็มเกือบทุกแห่ง ร้านอาหาร ร้านของที่ระลึก พ่อค้าแม่ค้ามีรายได้เพิ่มขึ้นจากการจับจ่ายใช้สอยของผู้มาเยือน ทางจังหวัดของเราพร้อมให้สนับสนุนการแข่งขันทุกด้าน

ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการป้องการแร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19 ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ มีความเข้มงวดตามที่ ศบค. ชุดใหญ่กำหนดทุกประการ ส่วนนักกีฬาก็มีระเบียบ มีวินัย และให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ต้องขอชื่นชมและขอขอบคุณแทนพี่น้องชาวจังหวัดมุกดาหารด้วย ที่ทุกคนได้มาช่วยทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดคึกคัก ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ทำให้พี่น้องชาวจังหวัดมุกดาหารปลื้มและมีความสุขสดชื่นเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งสมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้มาดำเนินการทั้งหมดทุกเรื่อง 100% จังหวัดมุกดาหารไม่ได้รับภาระอะไรเลย

นายเฉลิมพล กล่าวอีกว่า ในเรื่องของการท่องเที่ยว ขอเรียนให้ทุกท่านทราบว่า จังหวัดมุกดาหารไม่ใช่เป็นเพียงแค่จังหวัดชายแดน แต่เราเป็นศูนย์กลางในหลาย ๆ ด้าน ในอีก 2 ปีข้างหน้าจังหวัดของเราจะมีสนามบิน มีรถไฟรางคู่ความเร็วสูง จังหวัดมุกดาหารสามารถเชื่อมต่อกับเพื่อนบ้านทั้ง พม่า, ลาว, เวียดนาม และจีน ดังนั้นก็จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวให้มีความคึกคัก จังหวัดมุกดาหารมีแหล่งทั้งเที่ยวทั้ง 7 อำเภอ เรามีอาหารอร่อย มีความปลอดภัยสูง และมีทิวทัศน์ที่สวยงาม โดยเฉพาะแลนด์มาร์กใหม่ ๆ เช่น อำเภอแก่งกระเบา ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ และมีหมูหันที่รสชาติอร่อย ส่วนอำเภอเมือง ที่วัดพระพุทธบาทภูมโนรมย์ เรามีองค์พระใหญ่ที่ได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็คือพระพุทธรูปเฉลิมพระเกียรติ “พระเจ้าใหญ่แก้วมุกดาศรีไตรรัตน์” จึงขอเชิญพี่น้องชาวไทยและชาวต่างประเทศมาเที่ยวจังหวัดมุกดาหาร จะได้รับความประทับใจอย่างแน่นอน

ด้านผลการแข่งขันปรากฏว่า แชมป์ประจำสเตจที่ 1 เป็นของ “ผู้กองบีซ” ร้อยเอกหญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ นักปั่นทีมชาติไทย ซึ่งโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอด สปรินต์เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ด้วยเวลา 2.12.06 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ ร.อ.หญิง จุฑาธิป ยังคว้ารางวัลผู้นำเวลารวม ด้วยเวลา 2.11.51 ชั่วโมง ได้ครอง “เสื้อเหลือง” ไปอย่างงดงาม, อันดับที่ 2 ธิ เควียน บุย จากทีมชาติเวียดนาม, อันดับที่ 3 ร้อยตำรวจตรีหญิง พรรณรายณ์ ราษี นักปั่นทีมชาติไทย ขณะที่ สิบโทหญิง ศุภักษร นันตะนะ นักปั่นอาชีพทีมไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง เวลา 2.12.06 ชั่วโมงเท่ากัน

รางวัลเจ้าความเร็ว หรือ Intermadiate Sprint (IS) มีทั้งหมด 2 จุด ปรากฏว่า IS1 เป็นของ ร.อ.หญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ ไซคลิง, IS2 ได้แก่ ร.ต.ต.หญิง พรรณรายณ์ ราษี โดยมี ร.อ.หญิง จุฑาธิป ได้อันดับ 2 ส่งผลให้ “บีซ” ได้รางวัลผู้นำคะแนนรวมเจ้าความเร็ว มี 24 คะแนน ได้ “เสื้อเขียว” ไปครอง ด้าน น.ส.รุ่งนภา กุศล จากทีมคิตเช่นควีนส์ ได้รับตำแหน่งนักกีฬาบู๊ยอดเยี่ยมประจำสเตจที่ 1 ไปครอง

ขณะที่แชมป์ประจำสเตจที่ 1 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เป็นของ ดอร์ก้า จอร์แดน จากทีมพาโนรามา ฮังการี ไซคลิง ของฮังการี

เวลา 2.12.06 ชั่วโมง ขณะที่ผู้นำเวลารวมอายุไม่เกิน 23 ปี ได้แก่ ลูซี ฟิตยัส จากทีมไซคลิง ดีวีลอปเม้นต์ ฟาวเดชั่น ของออสเตรเลีย

ด้วยเวลา 2.12.04 ชั่วโมง ได้ครอง “เสื้อม่วง” ไปครอง

เวลารวมประเภททีม อันดับที่ 1 ทีมชาติไทย, อันดับที่ 2 ทีมฟิชเชอร์แมนเฟรนด์, อันดับที่ 3 ทีมชาติมาเลเซีย เวลา 6.36.18 ชั่วโมงเท่ากัน ขณะที่ผลการแข่งขันทั้งหมดสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมฯ www.thaicycling.or.th

พลเอกเดชา กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ จุฑาธิป ประเดิมคว้าแชมป์สเตจแรกมาครองสำเร็จ ต้องชื่นชมสตาฟฟ์โค้ช นำโดย โค้ชหลี่ เสี่ยว เล่อ ผู้ฝึกสอนชาวจีน ที่วางแผนมาดีมาก และนักกีฬาทุกคนก็ทำได้ตามแผน และสู้อย่างเต็มที่ ก่อนหน้านี้มีความวิตกกังวลเล็กน้อยเนื่องจาก จุฑาธิป มีภารกิจติดการอบรมหลักสูตรนายทหารชั้นนายร้อย ร่างกายอาจจะไม่เต็มร้อย แต่ จุฑาธิป ยังรักษาฟอร์มได้ดี ส่วนสเตจที่ 2 ในช่วงท้ายต้องปั่นขึ้นเขา ก็ขึ้นอยู่กับว่าสตาฟฟ์โค้ชจะวางแผนต่อสู้กับทีมอื่น ๆ อย่างไร ส่วนนักกีฬาของเราใจสู้ทุกคน แต่ก็ต้องระวังคู่แข่งจากออสเตรเลีย และฮังการีให้ดี เพราะนักปั่นของเขามีความแข็งแกร่งพอสมควร

ด้าน ร.อ.หญิง จุฑาธิป กล่าวว่า วันนี้ดีใจมากที่ทำได้ตามเป้าหมาย เพื่อนร่วมทีมทุกคนทำหน้าหน้าที่ได้ดีมาก ตามแผนที่สตาฟฟ์โค้ชวางเอาไว้ทุกประการ ถือว่าประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม ส่วนสเตจที่ 2 ระยะทาง 134.20 กิโลเมตร และมีช่วงที่ปั่นขึ้นเขาก่อนเข้าเส้นชัย ก็จะพยายามทำให้เต็มที่ อย่างน้อยต้องรักษาเสื้อเหลืองเอาไว้กับทีมไทยให้ได้ไปจนถึงวันสุดท้าย

สำหรับการแข่งขันสเตจที่ 2 วันที่ 9 เมษายน ได้รับเกียรติจาก นายเฉลิมพล มั่งคั่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานปล่อยตัวนักกีฬา เวลา 09.00 น. เส้นทางเริ่มต้นจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2-ผ่านภูจ้อก้อ-อำเภอคำชะอี-อำเภอนิคมคำสร้อย-อำเภอหนองสูง-เข้าเส้นชัยที่วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ระยะทาง 134.20 กิโลเมตร.