“พีระพล ชาวเชียงขวาง” นักปั่นทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ระเบิดฟอร์มร้อนแรงคว้าแชมป์สเตจที่ 3 ในศึกสองล้อทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2024” พร้อมกับขึ้นเป็นผู้นำเวลารวมได้สวม “เสื้อเหลือง” พร้อมคว้ารางวัลนักปั่นยอดเยี่ยมอาเซียนได้ “เสื้อม่วง” และคว้ารางวัลเจ้าภูเขาได้ “เสื้อลายจุด” ไปครองรวมทั้งหมด 3 ตัว ส่วน “ตุลธร โสสลาม” นักปั่นทีมชาติไทยสู้สุดหัวใจได้รางวัลนักกีฬาบู๊ยอดเยี่ยมประจำสเตจที่ 3 ด้าน “เสธ.หมึก” ใจดีอัดฉีดให้นักปั่นไทยไม่อั้นรางวัลละ 30,000 บาท
การแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2024” ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ระหว่างวันที่ 1-10 เมษายน เส้นทางในจังหวัดพิษณุโลก, อุตรดิตถ์, สุโขทัย, กำแพงเพชร, พิจิตร, นครสวรรค์ และเพชรบูรณ์ ระยะทางรวม 1,242.50 กิโลเมตร สำหรับพิธีเปิดการแข่งขันสเตจที่ 3 เมื่อวันที่ 3 เมษายน ที่หน้าวัดมหาธาตุ ภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ได้รับเกียรติจาก นายสุชาติ ทีคะสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, นางสาวสรินรัตน์ เกิดสกุลรุ่งโรจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย, นายอนุชา พัสถาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร, นายนายสุรศักดิ์ วงศ์ตั้ง นายอำเภอพิชัย ผู้แทน นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมในพิธี
นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก นางสาวนาตยา ภูศรี ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย, นายสบธนา อั๋นประเสริฐ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุโขทัย, นางสาวพรภิมล กันเนียม ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดสุโขทัย, นางสาวสุพรรัตน์ วัฒนดำรงค์ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดสุโขทัย พร้อมหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ร่วมในพิธี โดยสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กไลฟ์ Thai PBS และช่องยูทูบ Thai PBS มียอดผู้ชมรวมกันกว่า 330,000 วิว
ด้านการแข่งขันสเตจที่ 3 เส้นทางจากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ผ่านอำเภอกงไกรลาศ ผ่านอำเภอวังทอง เข้าเส้นชัยที่บ้านรักไทย อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ระยะทาง 128.30 กิโลเมตร เกมในช่วงแรกนักปั่นต่างเกาะกลุ่มกันมา ผลัดกันหนีผลัดกันลาก เข้าสู่ 20 กิโลเมตรสุดท้าย นายตุลธร โสสลาม นักปั่นทีมชาติไทยหนีนำเดี่ยวออกมา พอถึงช่วง 5 กิโลเมตรสุดท้ายเป็นทางขึ้นเขาสูงชันก็โดนกลุ่มใหญ่ไล่ทัน นักปั่นหลายคนปั่นขึ้นไม่ไหวถึงกับต้องเดินจูงรถแทน แต่ “มะตูม” พ.อ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง นักปั่นทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัล หนีคู่ขึ้นมาพร้อมกับ เอ็ดเน่ ฟาน แองเจเลน นักปั่นเยอรมนีจากทีมรู้ใจ อินชัวเรนซ์ แต่เมื่อถึงช่วง 100 เมตรสุดท้าย พีระพลสปรินท์หนีเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกคว้าแชมป์สเตจที่ 3 ไปครอง ด้วยเวลา 3.11.12 ชั่วโมง ส่วน เอ็ดเน่ ฟาน แองเจเลน ได้อันดับ 2 เวลา 3.11.14 ชั่วโมง, อันดับ 3 “เฟรม” ส.ต.ธนาคาร ไชยยาสมบัติ จากทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัล เวลา 3.11.23 ชั่วโมง
ด้านรางวัลเจ้าความเร็ว หรือ Intermediate Sprints จุดที่ 1 (IS1) และจุดที่ 2 (IS2) เป็นของ เจ๋อ เย กี่ นักปั่นทีมตรังกานู ไซคลิง จากมาเลเซีย โดยมี ตุลธร โสสลาม ได้อันดับ 2 ในจุดที่ 2 (IS2) นอกจากนั้นตุลธรยังได้รับรางวัลนักกีฬาบู๊ยอดเยี่ยมประจำสเตจที่ 3 ด้วยฟอร์มการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมและสู้อย่างสุดหัวใจ
ตำแหน่งผู้นำเวลารวมเปลี่ยนมือเป็นของ พ.อ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง เวลา 10.50.45 ชั่วโมง ได้ “เสื้อเหลือง” ไปครอง, ที่ 2 เอ็ดเน่ ฟาน แองเจเลน ตามหลังพีระพล 6 วินาที โดยมี ส.ต.ธนาคาร ไชยยาสมบัติ รั้งอันดับ 3 ตามหลังพีระพล 17 วินาที ขณะที่รางวัลผู้นำคะแนนรวมเจ้าความเร็วเป็นของ ลูคัส คาร์สเตนเซ่น นักปั่นชาวเยอรมนีจากทีมรู้ใจ อินชัวเรนซ์ มี 29 คะแนน ได้สวม “เสื้อเขียว” ส่วนรางวัลนักปั่นยอดเยี่ยมอาเซียนก็ตกเป็นของ “มะตูม” พีระพล ได้สวม “เสื้อม่วง” นอกจากนี้พีระพลยังคว้ารางวัลเจ้าภูเขา (KOM) ได้สวม “เสื้อลายจุด” อีก 1 ตัว รวมเป็น 3 ตัว ทั้งนี้ พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้มอบเงินอัดฉีดให้แก่นักปั่นทีมไทยแลนด์คอนติเนนตัล และทีมชาติไทยที่ได้รับรางวัลต่าง ๆ รางวัลละ 30,000 บาท
ส่วนเวลารวมประเภททีมประจำสเตจที่ 3 เป็นของทีมรู้ใจ อินชัวเรนซ์ พร้อมทั้งครองเวลารวมประเภททีมด้วยเวลา 32.34.12 ชั่วโมง โดยมีทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัล รั้งอันดับ 2 ซึ่งตามหลังอยู่ 4 วินาที ส่วนผลการแข่งขันทั้งหมดสามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ www.thaicycling.or.th
หลังการแข่งขัน พลเอกเดชา เปิดเผยว่า หลังจบการแข่งขันสเตจที่ 2 ตนได้ไปพบนักกีฬา เพื่อให้กำลังใจและประกาศอัดฉีด พร้อมบอกกับสตาฟฟ์โค้ชและนักกีฬาว่าอย่าประมาท เพราะการแข่งขันจักรยานทางไกลเราต้องพยายามคว้าแชมป์ให้ได้ทุกวัน เนื่องจากมีผลเรื่องคะแนน และการคว้ารางวัลผู้นำเวลารวมด้วย ถ้ามีโอกาสต้องกวาดรางวัลมาให้หมด เราแข่งขันในเมืองไทยทีมไทยก็ต้องมีผลงานที่ดี หลังจากนี้เรายังเหลืออีก 3 สเตจ ตอนนี้ผ่านมาครึ่งทางแล้ว สำหรับทีมรู้ใจ อินชัวเรนซ์เขามีตัวขึ้นเขาไม่กี่คน แต่ของเรามีตัวขึ้นเขาหลายคน จนกระทั่งพีระพลคว้าแชมป์สเตจและเจ้าภูเขามาครอง รวมทั้งขึ้นเป็นผู้นำเวลารวมได้สำเร็จ
“การแข่งขันในสเตจที่ 4 ผมได้บอกโค้ชว่าให้สู้อย่างเต็มที่ เรามาแข่งขันในแผ่นดินของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เราต้องสวมหัวใจนักสู้ และต้องวางแผนให้ดี ในสภาพอากาศที่ร้อนต้องเตรียมการให้พร้อม เงินอัดฉีดก็ต้องเตรียมให้ถึง ขอแรงใจจากพี่น้องชาวไทยช่วยส่งกำลังใจมาเชียร์นักปั่นไทยในอีก 3 สเตจที่เหลือ รวมทั้งการแข่งขันประเภททีมหญิงรวม 3 วัน ขอเชิญพี่น้องประชาชนชาวไทยที่อยู่สองข้างทางออกมาให้กำลังใจนักปั่นไทย ส่วนพี่น้องประชาชนทั่วประเทศให้ชมผ่านการถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ซึ่งเกมการแข่งขันสนุกทุกวันสู้กันอย่างสุดหัวใจทุกวัน” พลเอกเดชา กล่าว
ส่วน พ.อ.อ.พีระพล ชาวเชียงขวาง กล่าวว่า วันนี้ดีใจมากที่คว้าแชมป์สเตจมาครองสำเร็จ ต้องขอขอบคุณท่านพลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมฯ ที่มาให้กำลังใจให้พวกเรา และมอบเงินอัดฉีดให้ ที่ผ่านมาพวกเราทำกันอย่างเต็มที่อยู่แล้ว แต่เมื่อท่านนายกได้ให้กำลังใจและชี้ข้อบกพร่องให้เราแก้ไข พวกเราก็พยายามทำให้ดีที่สุด ก่อนหน้านี้สตาฟฟ์โค้ชได้พามาดูเส้นทางและฝึกซ้อมกับเส้นทางแข่งขันจริง ซึ่งพวกเรามองว่าเหมาะกับความถนัดของพวกเราอยู่แล้ว เนื่องจากทีมเราปั่นขึ้นเขาได้หลายคน เส้นทางขึ้นก็ไม่ยาวมากนัก สามารถต่อสู้กับฝรั่งได้อย่างแน่นอน ส่วนสเตจที่ 4 เป็นทางขึ้นเขาเยอะแต่ระยะทางค่อนข้างไกล ต้องปั่นอย่างรัดกุมเพื่อป้องกันไม่ให้เสื้อเหลืองและเสื้อม่วงหลุดมือ
ด้าน “โค้ชตั้ม” วิสุทธิ์ กสิยะพัท ผู้จัดการทีมและหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมไทยแลนด์ คอนติเนนตัล กล่าวว่า การแข่งขันแต่ละสเตจ มีความแตกต่างกัน ซึ่งใน 2 วันแรกเราเซฟตัวที่ถนัดขึ้นเขาเอาไว้ พอมาสเตจที่ 3 เป็นทางขึ้นเขาก่อนเข้าเส้นชัย พีระพลก็สามารถทำได้ดี เพราะเราเก็บพลังเพื่อมาระเบิดบนเขาโดยเฉพาะ ส่วนทีมงานช่างก็เตรียมอุปกรณ์สำหรับการปั่นขึ้นเขามาพร้อม แผนที่วางเอาไว้ก็คือพีระพลเคยปั่นขึ้นได้ในเวลา 11 นาทีกว่า คนที่จะทำเวลาได้ต่ำกว่านี้เป็นเฉพาะนักปั่นระดับโปรทัวร์เท่านั้น ซึ่งพีระพลก็ทำได้ตามเป้าหมาย อย่างไรก็ตามนักปั่นที่มาร่วมแข่งขันก็เป็นทีมระดับโปรเช่นกัน อย่างทีมรู้ใจ อินชัวเรนซ์ก็ใช้นักกีฬาต่างชาติทั้งหมด ขณะที่ทีมของเราใช้นักกีฬาไทยล้วน ๆ ซึ่งปลูกฝังกันมาตั้งแต่เริ่มต้นจนมาทุกวันนี้ ของขอของคุณพี่น้องชาวไทยทุกคนที่ให้กำลังใจนักปั่นไทย พวกเราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อคว่แชมป์มาฝากพี่น้องชาวไทยให้ได้
สำหรับพิธีมอบรางวัลที่สนามโรงเรียนรักไทยร่มเกล้าอุปถัมภ์ ได้รับเกียรติจาก นายนิสิต สวัสดิเทพ ปลัดจังหวัดพิษณุโลก, นายวรวรศ์ พงศบุตร ป้องกันจังหวัดพิษณุโลก, นางปาริษา ปานพรหม ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพิษณุโลก, พ.ต.อ.ภาณุวัฒน์ ภูจอมเพชร ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเนินมะปราง, นางอุบลรัตน์ ศิลตระกูล พาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก, นางจุราพร ชุนหกิจ ปลัดอำเภอหัวหน้างานบริหารงานปกครอง อำเภอเนินมะปราง, น.ส.ขนิษฐกาญจน์ ฐิติกาบุญญานนท์ ผู้อำนวยการโรงเรียนรักไทยร่มเกล้าอุปถัมภ์ มอบรางวัลแก่นักกีฬาที่ได้รับรางวัล
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันสเตจที่ 4 วันที่ 4 เมษายน ได้รับเกียรติจาก พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบลูย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 เป็นประธานในพิธี เริ่มเวลา 08.00 น. เส้นทางจากพระราชวังจันทน์ จังหวัดพิษณุโลก ผ่านอำเภอวังทอง ผ่านวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เข้าเส้นชัยที่พุทธอุทยานเพชบุระ จังหวัดเพชรบูรณ์ ระยะทาง 155.90 กิโลเมตร
.